27 พฤษภาคม 2554
เริ่มต้นปีการศึกษาใหม่แล้วค่ะ หัวข้อการเรียนรู้จึงวนกลับมาที่เรื่อง ร่างกายของเรา ครั้งนี้เราก็ไปทัศนศึกษากันที่พิพิธภัณฑ์กายวิภาคคองดอน รพ.ศิริราชกันเช่นเดิม
เราได้วิทยากรเป็นพี่เอ๋คนเดิมจากปีที่แล้ว พี่เอ๋ยังจำเด็กๆได้ค่ะ ยังทักว่าตัวโตขึ้นเยอะ เราเริ่มกันที่ห้องแสดงกระดูกส่วนต่างๆของร่างกาย ก็ร่างกายเรามีกระดูกประมาณ 206 ชิ้น ก็เลยมีให้ดูเยอะขนาดนี้้
เด็กๆได้ดูโครงกระดูก แล้วนำมาสัมพันธ์กับร่ากายของตัวเองด้วยการคลำ หากระดูกไหปลาร้า กระดูกนิ้วมือ กระดูกเข่า
พี่วิทยากรบรรยายไปได้ซักพัก ก็เปิดโอกาสให้เด็กๆถาม เด็กๆเลยยิงคำถามไม่ยั้ง ตอบกันไม่เสร็จ จนสุดท้ายต้องตั้งวงคุยกันเลย
ถึงแม้เราจะไปที่เดิมเหมือนปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ทำให้ได้เห็นพัฒนาการของเด็กๆที่เปลี่ยนไปเยอะมาก สังเกตได้ว่าเด็กมีสมาธิมากขึ้น มีความตั้งใจในการบันทึก
ผลงานบันทึกของ วิน ป.2
บันทึกของกัน ป.2
แต่ก็ใช่ว่าการพาเด็กมาในตอน ป.1 ตอนที่ยังอ่านเขียนไม่ได้ไม่มีประโยชน์นะคะ แม่อ้อเชื่อว่าเด็กจะเก็บเกี่ยวเนื้อหาที่เชื่อมโยงได้กับตัวเขาในวัยนั้นๆ อย่างเด็กป.1 ที่ยังเรียนรู้ร่างกายภายนอก ที่จับต้องได้ เห็นได้ ดังนั้นเค้าก็จะสนใจเด็กแฝด เด็กที่มีพัฒนาการผิดปกติ และการได้สัมผัสบรรยากาศการเรียนรู้ ที่มีวิทยากรบรรยาย เห็นพี่ๆตั้งคำถาม เห็นพี่ๆตั้งใจบันทึก ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เกิดการเลียนแบบ และกระตุ้นความอยากรู้ได้
อย่างน้องชุณฬี่ ป.1 ก็ตั้งคำถามเยอะและตั้งใจฟังวิทยากรมากเลยค่ะ
น้องแคท ป.1 ก็ตั้งใจบันทึกด้วยการวาดรูป
สำหรับเด็กป.2 ซึ่งอ่านเขียนคล่องแล้ว เข้าใจการทำงานของอวัยวะร่างกายภายในแล้ว ดังนั้น ตับ ไต ปอด หัวใจ ลำไส้ ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าก็เป็นสิ่งน่าเรียนรู้ค่ะ
สำหรับพี่ ป.4 นั้นก็เชื่อมโยงร่างกายไปถึงโรคต่างๆ ทั้งลมชัก มะเร็ง ตาบอด ข้อไหล่หลุด กระดูกหัก คางแตก และตั้งคำถามถึงความผิดปกติต่างๆ สาเหตุ และวิธีการป้องกัน
จำได้ว่าปีที่แล้วธีธัชบันทึกภาพมาได้แต่เด็กแฝดที่มีความผิดปกติต่างๆกันไป แต่มาปีนี้โตขึ้นมาอยู่ ป.2 แล้ว หันมาสนใจลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ความรู้ใหม่ของธีธัชครั้งนี้ คือ ภายในลำไส้เล็ก ส่วนที่ใช้ดูดซึมอาหารมีลักษณะคล้ายผ้าพับไปพับมาเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซึมอาหาร
ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศการเรียนรู้และความตั้งใจจดบันทึกของเด็กๆค่ะ