เข้าร่วม MultiplyOpen a Free Shopลงชื่อเข้าใช้งานวิธีใช้English
MultiplyLogo
SEARCH
รายการบล็อกJun 28, '12 12:15 AM
สำหรับ ทุกคน
พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา (22/6/55)

ไปดูไดโนเสาร์กันค่ะ ไปเรียนรู้เรื่องการกำเนิดโลก หิน แร่ธาตุ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และดูไดโนเสาร์คำราม ไปกันที่พิพิธภัฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี (National Geological Museum) โดย กรมทรัพยากรธรณี


พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นเพ่ือถวายเป็นราชสัการะแด่ในหลวง ในมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (ปี 2539) ตัวพิพิธภัณฑ์เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปีที่แล้วนี้เอง และจะเปิดอย่างเป็นทางการในปลายปี 2555 นี้ค่ะ


เราได้พี่วิทยากรใจดี คือ พี่รัตน์   พี่รัตน์เริ่มต้นด้วยการพาเราไปดูวีดีทัศน์สั้นๆเรื่อง กำเนิดโลก เมื่อ 4,600 ล้านปีที่แล้ว


พอเดินออกมา ก็เจอกับโมเดลอธิบายถึงชั้นของโลก ซึ่งมีเปลือกโลก(Crust)อยู่นอกสุด มีความหนาระหว่าง 0-60 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่มากกว่า 70% ปกคลุมด้วยน้ำ 


ชั้นถัดมาเป็นเนื้อโลก(Mantle) มีความหนาประมาณ 2,900 กิโลเมตร ต่อมาคือ ชั้นในสุดคือ แก่นโลก (Core) เป็นส่วนชั้นในสุดของโลกที่มีความหนาแน่นมาก มีรัศมียาวประมาณ 3,486 กิโลเมตร  ประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างเหล็กและนิกเกิล และส่วนชั้นในสุดของแก่นโลกมีความร้อนสูงถึง 5,500 องศาเซลเซียส


เนื่องจากเปลือกโลกที่เราอยู่กัน เหมือนแผ่นหินที่ลอยอยู่บนของเหลว มันจึงเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพียงแต่น้อยมาก ประมาณ 5 เซ็นติเมตรต่อปี ภาพนี้แสดงแผ่นเปลือกโลกในยุคต่างๆค่ะ เมื่อ 250 ล้านปีที่แล้วทวีปต่างๆในปัจจุบันเคยเป็นแผ่นมหาทวีปเดียวกันอยู่เลยค่ะ


มีสื่อแสดงการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกทั้ง 3 แบบ ได้แก่ แยกออกจากกัน ชนกัน และพาดผ่านกัน เด็กๆสามารถหมุนให้แผ่นเปลือกโลกในโมเดลขยับเข้าหากันได้ค่ะ


นิทรรศการส่วนต่อไปแสดงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต นี่เป็นวงล้อแสดงถึงวิวัฒนาการตั้งแต่กำเนิดโลกเมื่อ 4,600 ล้านปีก่อน ไล่มาจนถึงปัจจุบัน


ต้องเห็นสิ่งมีชีวิตก่อนที่จะพัฒนามาเป็นมนุษย์ ซึ่งมีตั้งแต่หน้าเหมือนปลา เหมือนกิ้งก่า เหมือนสัตว์ประหลาด


ส่วนต่อมาเป็นการจัดแสดงธรณีวิทยาในประเทศไทย นี่เป็นแผนที่ทางภูมิประเทศของไทย


เด็กๆกำลังดูโมเดลจำลองซากกระดูกของ Velociraptor vs Protoceratops ที่ต่อสู้กันจนตายทั้งคู่


ต่อมาเราเดินผ่านการจำลองลักษณะสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศในยุคต่างๆ 


มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ตั้งอยู่ให้ตื่นเต้นขึ้นด้วยค่ะ โครงกระดูกเหล่านี้เป็นโครงจำลองเท่านั้นค่ะ พี่วิทยากรบอกว่ามันมีมูลค่าสูงเกินที่จะเอามาจัดแสดงค่ะ 


แล้วเราก็เดินมาถึงส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุด คือ สวนไดโนเสาร์ เป็นการลำลองสถาพแวดล้อมในยุคมีโซโซอิก ที่ไดโนเสาร์ครองโลก มีเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวที่พอเด็กๆเดินเข้าไปใกล้แล้วจะทำให้ไดโนเสาร์เคลื่อนไหวและคำรามเสียงดังด้วยค่ะ ตัวนี้คือ สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ พบฟอสซิลที่ภูเวียง จ.ขอนแก่น


นี่คือ  สยามโมซอรัส สุธีธรนี พบฟอสซิลฟันครั้งแรกที่ภูเวียง เป็นไดโนเสาร์ที่มีปากยาวแคบคล้ายจรเข้ กินปลาเป็นอาหาร


ไดโนเสาร์ตัวเบิ้มที่สุดตรงกลาง คอยาวๆ ขวัญใจเด็กๆ คือ ภูเวียงโคซอรัส สิรินธรเน 


เป็นซอโรพอดชนิดแรกของไทย และตั้งชื่อเพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 


ภูเวียงโคซอรัส สิรินธรเน ยาว 15-20 เมตร เดิน 4 เท้า คอและหางยาว กินพืชเป็นอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูง


นอกจากนี้ยังมีต้นไม้โบราณ เช่น แป๊ะก๊วย (Ginkgo biloba) กำเนิดมาเมื่อ 290 ล้านปีที่แล้ว


พี่วิทยากรเล่าว่า ไดโนเสาร์พวกนี้ราคาแพงมากเลยนะคะ เจ้าตัวเบิ้มเนี่ย 20 ล้านค่ะ ส่วนเจ้าตัวย่อมลงมานั้น 15 ล้านค่ะ!!


ที่ชั้น 3 เป็นนิทรรศการเรื่อง แร่ มีตั้งแต่การทำเหมืองแร่ ซึ่งจำลองเหมืองแร่มาให้เด็กๆเดินผ่าน


การจำแนกแร่ 


ใครรู้บ้างคะว่าแป้งฝุ่นที่เราใช้นั้นผลิตมาจากแร่ ทัลก์(Talc) ส่วนยาสีฟันผลิตมาจากผงแร่แคลไซต์และฟลูออไรด์ กระจกก็ผลิตมาจากทรายแก้วเป็นหลัก


นิทรรศการส่วนต่อมาเป็น ธรณีพิบัติภัย มีทั้งการจำลองแผ่นดินไหว โดยเด็กๆยืนอยู่บนแผ่นกลมมีราวเหล็กให้จับ มีภาพวีดีโอแผ่นดินไหวสเกลต่างๆให้ดูไปพร้อมกับที่แผ่นวงกลมสั่นไหว


มีการจำลองทอร์นาโดในโหลแก้วยักษ์ตรงกลาง


ต่อมาเราไปชั้นที่ 4 นิทรรศการด้านเชื่อเพลิงธรรมชาติและพลังงานทางเลือก ในภาพนี่คือโมเดลการสำรวจ การขุดเจาะปิโตเลียม


หลังจากเดินชมครบทั้ง 4 ชั้นแล้ว ก็ถึงเวลาเติมพลังด้วยข้าวเที่ยง ทางพิพิธภัณฑ์มีส่วนโรงอาหารติดแอร์เย็นเฉียบให้เราได้นั่งทานค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีร้านอาหารขาย คงต้องรอหลังจากเปิดเป็นทางการตอนปลายปี


กินกันเอร็ดอร่อยเช่นเดิม


หลังจากอิ่มท้องแล้ว เด็กๆก็แยกย้ายเก็บข้อมูล โดยคุณครูได้ตั้งคำถามไว้ตั้งแต่ก่อนมาแล้วค่ะ พี่โตก็โจทย์เยอะหน่อย วาดรูปมากหน่อย


ดีนะคะที่เรามีคุณครูไปกันเยอะ ก็เลยมีคุณครูเดินตามดูแลเด็กๆได้ทั่วถึง เพราะพิพิธภัณฑ์นี้มีตั้ง 4 ชั้น


เดินกันไปทั่วพิพิธภัณฑ์ แต่สุดท้ายก็ต้องมาดูไดโนเสาร์คำรามกันอีกรอบค่ะ




หลังจากเก็บข้อมูลกันในพิพิธภัณฑ์เต็มที่ ก่อนกลับเด็กๆแวะเก็บข้อมูลกันที่ สวนหิน จัดแสดงหินชนิดต่างๆ ในยุคต่างๆ


แดดร้อนแต่ก็สู้ไม่ถอย


พิพิธภัณฑ์ที่นี่มีข้อมูลแน่เอี้ยดเชียวค่ะ จัดข้อมูลได้น่าอ่าน ทำแบบจำลองต่างๆ ทั้งเหมืองแร่และแผ่นดินไหวก็ทำได้น่าสนใจ แล้วเจ้าไดโนเสาร์ตัวโตก็สุดยอด น่าพาเด็กๆมามากๆค่ะ 


ข้อมูลเพิ่มเติม :

เว็บไซต์พิพิธภัณฑ์ : http://www.dmr.go.th/main.php?filename=index_PM
รีวิวพิพิธภัณฑ์โดยคุณ พนบ. บนเว็บพันธ์ทิพย์: http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12123471/E12123471.html

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้ให้บริการตั้งแต่เวลา 09:30 - 16:30 เฉพาะวัน ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์
ค่าผ่านประตูมีรายละเอียดดังนี้คือ 
คนไทย
ผู้ใหญ่  30 บาท เด็ก 10 บาท

ต่างชาติ
ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

โทรศัพท์สอบถามได้ครับที่หมายเลขดังนี้
เวลาราชการ 02 902 7661
วันหยุดราชการ 02 902 7681


เพิ่มความเห็น