พอเราไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก พี่ๆและลุงโรจน์(ขวาสุด) ซึ่งเป็นเจ้าของที่นี่ แล้วลุงโรจน์ก็พาเด็กๆไปนั่งคุยกันที่ห้องโยคะ ซึ่งเป็นบ้านดินขนาดใหญ่ พอเรานั่งปุ๊บก็สัมผัสถึงความเย็นของพื้น ลุงโรจน์อธิบายว่า บ้านดินนั้นจะทำให้อากาศเย็นลง 2-3 องศา ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งอาจทำให้เด็กๆมีน้ำมูกและเป็นหวัดง่าย แล้วก็สอนเด็กๆให้ทานผักเยอะๆ เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ใส่ผงชูรส ใส่รสดีก็ไม่ได้นะครับ
จากนั้นพี่เจี๊ยบซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลห้องออกกำลังกาย ก็พาพวกเราไปกันที่ห้องฟิตเนส ซึ่งปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้เด็กเข้าไป เพราะมีอุปกรณ์ใหญ่ๆหนักๆที่อาจเป็นอันตรายได้ แต่คราวนี้อนุญาตเป็นพิเศษเพราะได้ยินมาว่าเด็กๆเรียบร้อย แล้วเด็กๆก็เรียบร้อยจริงๆ เห็นอุปกรณ์ต่างๆก็ไม่ขึ้นไปปีนป่าย
แต่พี่เจ้าหน้าที่ต้องตอบคำถามมากหน่อย เพราะมีอุปกรณ์หน้าตาประหลาดสำหรับเด็กๆเต็มไปหมด อย่างเครื่องนี้ น้องบุ๋นถามทันทีว่า "ใช้ขับรถหรือครับ"
พอเด็กๆเห็นแผ่นเหล็กถ่วงน้ำหนักที่เรียงกันบนเครื่องยกน้ำหนัก น้องมดตะนอยบอกว่า "เครื่องนี้เหมือนขนมชั้นเลย" ส่วนน้องบุ๋นบอกว่า "เหมือนลิฟท์"
เริ่มแรกพี่เจี๊ยบสอนเด็กๆถึงลักษณะร่างกายโดยทั่วไป ได้แก่ อ้วน, ผอม และสมบูรณ์ แล้วก็เรียกพี่ ปัณณ์ ทอม และธีธัชขึ้นมายืนเป็นตัวอย่าง เดาสิคะว่าธีธัชตกอยู่ในกลุ่มไหน อิ...อิ...เป็นเด็กสมบูรณ์ค่ะ ไม่รู้ว่า"สมบูรณ์"แบบ Perfect หรือ "สมบูรณ์" แบบซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์
พี่บอกว่าคนที่ร่างกายผอมต้องออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อ โดยจะยกน้ำหนักเยอะแต่จำนวนครั้งน้อย สำหรับคนอ้วนต้องเผาผลาญพลังงานด้วยการออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหวแบบต่อเนื่อง เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แต่คนร่างกายสมบูรณ์ออกกำลังกายได้ทั้งสองแบบ พี่เค้ายังบอกอีกว่า เด็กๆอายุต่ำกว่า 15 ยังไม่ควรยกน้ำหนัก เพราะจะทำให้ไม่โตกลายเป็นเด็กแกรน
แล้วพี่ก็สอนวิธีออกกำลังกายอย่างง่ายที่บ้าน โดยการใช้ขวดน้ำเปล่า เติมน้ำให้เต็มแล้วใช้เป็นที่ยกน้ำหนัก ท่าในการยกขวดน้ำที่ต่างกัน ก็จะออกกกำลังกายกล้ามเนื้อในจุดที่ต่างกัน พี่เจี๊ยบยังสอนว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรง และสูงเร็วขึ้น พอพี่เค้าถามว่า "ใครเห็นคุณพ่อคุณแม่ออกำลังกายที่บ้านบ้าง" เด็กๆพร้อมใจกันตอบว่า "ไม่เคย" โอว..อับอายมากค่ะ
พี่ยังสอนเด็กๆถึงความสำคัญของการอบอุ่นร่างกาย ว่าเป็นการยืดกล้ามเนื้อ ไม่ให้ตึง และป้องกันกล้ามเนื้ออักเสบ โดยควรอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย 5-10 นาที และหลังออกกำลังกายอีกประมาณ 20 นาที ซึ่งสำคัญมากเพราะ *เป็นช่วงเวลาที่หัวใจเต้นแรงและเลือดยังค้างอยู่ตามกล้ามเนื้อต่างๆ ควรค่อยๆหยุดออกกำลังกายทีละน้อยเพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงจนเป็นปกติ แล้วพี่ก็สอนเด็กๆถึงท่าต่างๆในการอบอุ่นร่างกาย
จากนั้นเราก็เดินชมรอบๆ กรีนไลฟ์ ฟิตเนส ระหว่างทางที่เดินผ่านต้นไม้อันร่มรื่น เด็กๆถึงกับพูดออกมาว่า "ต้นไม้เยอะจัง อย่างกับเดินป่าที่เขาใหญ่แน่ะ"
ที่นี่เป็นห้องนวดเพื่อสุขภาพ (เดี๋ยวช่วงหลังพี่จะสอนการนวดให้ แต่ไม่ใช่ที่ห้องนี้ค่ะ)
ห้องสปา เด็กๆสงสัยว่า สปา คืออะไร พี่ก็บอกว่าจะมีการขัดผิวเพื่อขัดให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดลอกออกไป น้องแสงจ้าบอกทันที "อ๋อ..ขัดขี้ไคล แล้วทำยังไงครับ" พี่ก็บอกว่า เจ้าหน้าที่จะใช้สมุนไพรมาขัดตัว น้องแสงจ้าตื่นเต้นใหญ่เลย "มีคนขัดให้ด้วยเหรอครับ!!" ครูเจนรีบเสนอตัวว่า พอกลับไปโรงเรียนเดี๋ยวครูช่วยเอาสก๊อตไบรท์ขัดให้ แสงจ้าบอก ไม่เอา..ไม่เอา... ฮ่า ฮ่า
ระหว่างนี้เองครูเจนเห็นรองเท้าที่ถอดแล้ว และไม่วางบนชั้น ครูเจนก็เลยเอาไปซ่อน ที่แท้เป็นของน้องวินนี่เอง ครูเจนเลยเรียนน้องวินมาสอน
ส่วนรูปข้างล่างนี้เป็นพี่แสงจ้าโดนทำโทษให้นั่งอยู่บนขอนไม้ เพราะนำน้องๆเดินบนขอนไม้ ครูสุห้ามแล้วไม่ฟัง ครูสุเลยลงโทษให้นั่งบนขอนไม้คนเดียว(ในที่ร่มและเพียง 3 นาที) เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างน้องวินกับแสงจ้าอย่างนี้ล่ะค่ะ ที่แม่ชอบหนักหนา การที่ครูเอาใจใส่ ไม่ละเลยพฤติกรรมไม่ดีเล็กๆอย่างนี้ และมีวิธีการในการสอนให้เด็กเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าดุหรือตีอย่างเดียว
ต่อมาเรากลับไปที่ห้องโยคะ เพื่อเรียนรู้การนวด พี่เจ้าหน้าที่สอนให้เด็กๆนั่งท่าหนุมาน ตั้งเข่าขึ้นมาข้างหนึ่งอย่างนี้
แล้วก็เริ่มนวดต้นคอ (ห้ามนวดเหนือไรผมเพราะจะทำให้ขาดเลือดและสลบได้) กดจุดบนกะโหลกศรีษะ แล้วยังบอกให้น้องๆกลับไปกดจุดให้คุณพ่อคุณแม่ที่บ้านด้วย จากนั้นก็ให้เด็กๆจับคู่กันเพื่อทดลองนวดให้เพื่อน ธีธัชคู่กับพี่แสงจ้า แค่พี่เค้าคลำเพื่อหาเส้น..ธีธัชก็ทำคอย่นหัวเราะร่วนด้วยความจั๊กจี๋ซะแล้ว
คู่พี่แพมกับพี่ปัณณ์ก็เอาแต่หัวเราะไม่ค่อยต่างกันนัก
การนวดมันทำให้คลายเครียดอย่างนี้นี่เอง หัวเราะกันกิ๊กกั๊ก
ที่ดูแล้วรุ่งหน่อย ก็จะเป็นพี่ทิม..ใช้สมาธิแน่วแน่ ดูเป็นมืออาชีพเลยนะเนี่ย
ส่วนเม็กก้าก็ใช่ย่อยได้นวดแม่แป้งคนสวยด้วย
หลังจากนั้นมีการทดสอบให้เด็กๆมานวดครูเจน โดยสมมติว่าครูเจนปวดหัว ให้เด็กๆลองมานวดแก้ปวดหัวให้หน่อย เริ่มด้วยน้องแสงจ้า บุ้งกี๋ ปัณณ์ บุ๋น ครูเจนถึงกับบ่นว่า "ครูปวดหัว แล้วมานวดต้นคอทำไมล่ะครับ"
สุดท้ายผู้ชนะของเรา คือ น้องอิงฟ้า ตั้งท่าเริ่มแบบหนุมานแล้วก็ออกแรงนวดตรงศรีษะอย่างมีน้ำหนักมือ เลยได้รางวัลจากพี่ๆไปครอง
หลังจากผ่านการเรียนรู้มาแล้ว ก็ถึงเวลาของว่าง เย้..เย้.. พี่ๆใจดีเตรียมน้ำแดง..ทั้งหวาน ทั้งเย็นชื่นใจมาเลี้ยงพวกเรา
ยังมีขนมปังมาให้ทานแบบไม่อั้นด้วย เด็กๆหยิบกันหมุบหมับเลย
จากนั้นเด็กๆก็ไปทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการ ปั่นจักรยานรดน้ำต้นไม้ โดยเป็นจักรยานพิเศษที่ติดเครื่องดูดน้ำขึ้นมาจากร่องน้ำใกล้ๆแล้วเอามารดน้ำ เด็กๆปั่นจักรยานกันสนุกเลย รูปนี้ธีธัชปั่นแล้วแม่แนนช่วยรดน้ำต้นไม้
เด็กๆอีกส่วนหนึ่งก็ไปเล่นไวกิ้งกับครูเจน โดยเด็กๆนั่งบนของเล่นที่มีรูปร่างคล้ายเรือ แล้วครูเจนเป็นคนแกว่ง!! เด็กๆกรี๊ดกร๊าด สนุกกันใหญ่ แต่ครูเจนกล้ามขึ้นเลย
พอใกล้เที่ยงเราก็ลากลับ โดยน้องมดตะนอยเป็นตัวแทนขอบคุณลุงโรจน์ใจดี พร้อมกับมอบของขวัญแทนคำขอบคุณ ลุงโรจน์ยังให้พรเด็กๆด้วยค่ะ
แล้วเราก็ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกก่อนกลับ
ขอขอบคุณลุงโรจน์ และเจ้าหน้าที่กรีนไลฟ์ฟิตเนสทุกท่านค่ะ สำหรับความรู้การดูแลสุขภาพ และความเมตตาต่อเด็กๆ