ปีนี้ย่าทวดของเราอายุ 98 ปีแล้วค่ะ เราทำบุญเลี้ยงพระกันที่บ้าน มีการแสดง 2 ชุด ชุดแรกเป็นทีมอังกะลุง ที่มีชื่อเท่ห์ว่า อังกะลุงกับป้า และชุดที่เด็ดชุดสองคือ การรำเชิญพระขวัญ ของธีญากับธัญญาที่ซุ่มฝึกซ้อมกันมาหลายเดือน
ย่าทวดแฉล้มของเรา ท่านยังแข็งแรง เดินเองได้ ยังอ่านหนังสือธรรมมะเป็นกิจวัตรประจำวัน ความจำท่านก็ยังเป็นเยี่ยม เล่าเรื่องเก่าๆได้ไม่มีหลงลืม ท่านเป็นแม่แบบในการดำเนินชีวิตที่ขยันและอดทน การที่ครอบครัวชาวนาที่มีลูก 9 คนสามารถเลี้ยงลูกได้เป็นคนดีและมีการศึกษาทุกคน ก็เป็นเพราะปู่ทวดพิณซึ่งเสีียชีวิตไปแล้ว และทวดแฉล้ม...แม่พระของบ้านคนนี้ค่ะ
ในรูปข้างล่างนี้ย่าทวดแฉล้มนั่งอยู่ด้านขวา ส่วนด้านซ้ายคือทวดฉลวยซึ่งเป็นน้องสาวของทวดแฉล้ม อายุ 94 ปี พี่น้องสองท่านนี้โทรศัพท์หากันแทบทุกวัน วันไหนใครใส่บาตรก็จะต้องโทรเพื่อเอาบุญมาแผ่ให้อีกคนหนึ่งทุกครั้ง เวลาที่จะลาจากกันก็จะมีการหอมแก้มกันเสมอ
พอพระจากวัดเทพศิรินทร์ที่นิมนต์ไว้มาถึง แม่อ้อก็เกณฑ์เด็กๆทั้ง ธีธัช ธีญา ธัญญา พี่เพชร และน้องแพรไปนั่งบนพรมกลางบ้าน ส่วนผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ฟังพระสวด เด็กๆนั่งกันนิ่งมาก หลังจากสวดจบ พระท่านถึงกับเอ่ยปากชม แล้วก็เรียกเด็กๆไปแจกพระกันคนละองค์
ขอเล่าเรื่องอาหารหน่อยค่ะ ย่าจิตต์จ้างร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากฤษณาเจ้าเก่า(สวนรื่น)ที่พ่อโก้ทานกันตั้งแต่เด็กมาทำก๋วยเตี๋ยวให้เราทาน แล้วยังมีขนมจีนน้ำยา น้ำพริก กระท้อนทรงเครื่อง สละลอยแก้ว และอาหารที่แม่อ้อรอคอยที่สุดก็คือ ยำใหญ่ ซึ่งนานๆถึงจะได้กินที ทำยากมากเพราะต้องเตรียมเครื่องเยอะมาก ทีมงานต้องมาจากปราจีนบุรีเชียวล่ะค่ะ ทีมเตรียมเครื่อง มีพี่ก้อย อาเล็ก น้ำผึ้ง และอาวัชรี
ส่วนทีมคลุกยำใหญ่ ต้องอาขนิษฐา กับครูอารีค่ะ
พอทำเสร็จแล้ว หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ อร่อย ทานได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วน
ทางด้านนอก ทีมอังกะลุง ก็เล่นเพลงไทยเดิมขับกล่อมพวกเราค่ะ สมาชิกทีมอังกะลุงนี้เป็นเพื่อนเก่าของย่าจิตต์สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเกษตร ตอนนี้ทุกคนอายุเกิน 70 กันแล้ว ก็ยังนัดเจอกันเพื่อรวมกลุ่มกันเล่นอังกะลุง โดยนัดซ้อมกันตอนเย็นแทบทุกวัน นับถือจริงๆค่ะ เล่นกันเป็นสิบเพลงไม่มีเหนื่อยกันเลย
หลังจากพระฉันเพลแล้วก็ถึงเวลานางรำทั้งสอง ตอนแรกแม่ส่งธีญาเรียนรำที่ นาฏก เพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่ท่าที่หนูเรียนมันยากไป สุดท้ายเลยเปลี่ยนเป็นให้พี่ณีสอนเพลงเชิญพระขวัญ เนื่องจากว่าสามารถคุกเข่ารำ มือหนึ่งถือพวงมาลัย ดังนั้นการจำท่าของมือที่เหลือหนึ่งมือนั้นเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับเด็กๆ
ธีญารำได้ชดช้อยน่ารักมากค่ะ อ้อ..ชุดและเครื่องประดับงามๆนี้ ยืมมาจากครูอ๊อบที่อนุบาลบ้านพลอยภูมิ ขอบพระคุณมาในที่นี้ด้วยค่ะ ส่วนทรงผมและแต่งตัวโดยพี่ณี
ธัญญาเนี่ย..เวลาซ้อมไม่ค่อยซ้อม แต่จำท่าได้เยอะเชียวค่ะ ท่าไหนลืมก็หันไปดูพี่ธีญา แต่ไม่ว่ายังไงก็น่ารักค่ะ ทั้งสองคนเป็นขวัญใจของทุกคนในงานเชียวค่ะ