พอเรียนจบองค์ 1 เด็กๆปฐมธรรมก็ต้องมีนิทรรศการเสนอร่องรอยการเรียนรู้ให้พ่อแม่ดู โดยเริ่มกันในห้องเรียนก่อน เด็กๆมานั่งรวมกันเพื่อนำเสนองาน โดยเด็กๆจะจัดเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันทั้งป.1-3
เนื้อหาที่นำเสนอ จะมี
1. ระบบร่างกายของเราซึ่งเราได้ไปทัศนศึกษากันที่พิพิธภัณฑ์กายวิภาค คองดอน แบ่งเป็น ระบบย่อยอาหาร, ตาและการมองเห็น, หูและการได้ยิน
2. อาหารหลัก 5 หมู่ ซึ่งจะเชื่อมโยงไปในเรื่องการดูแลร่างกายของเรา
3. การกำเนิดหิน และดิน และควาสัมพันธ์ระหว่างดินและมนุษย์
กลุ่มนี้นำโดยพี่เม็กก้า และพี่ทิม นำน้องอิงฟ้าและวิน อธิบายระบบการย่อยอาหาร เด็กๆเล่าได้ว่า พอกลืนลงไป ก็จะไปย่อยที่กระเพาะอาหาร ดูดซึมที่ลำไส้เล็ก แล้วก็ผ่านลำไส้ใหญ่เพื่อดูดน้ำกลับ แล้วก็ออกมาเป็นอี
กลุ่มพี่แพม แสงจ้า มดตะนอย และกัน บรรยายระบบการมองเห็น และอธิบายอาการของคนสายตาสั้นว่าเกิดจากภาพที่ตกก่อนจอรับภาพ ก็เลยเห็นระยะใกล้ชัดต้องแก้ด้วยเลนส์เว้า
ส่วนกลุ่มของธีธัชนำโดยพี่ปัณณ์อธิบายระบบการได้ยิน ธีธัชเล่าว่า เสียงจะเข้ามาในหูทำให้แก้วหูสั่น แก้วหูต่อกับกระดูก พอกระดูกสั่นก็จะทำให้ขนเล็กๆที่มีอยู่ในก้นหอยขยับ แล้วประสาทที่อยู่ตรงปลายก้นหหอยก็จะไปบอกสมอง โอว...เจ๋งค่ะลูก แม่เคยเรียนมาก็ยังลืมไปแล้วเลยนะเนี่ย
ต่อมากลุ่มพี่แพมก็อธิบายการกำเนิดของหินประเภทต่าง ทั้งหินอัคนี หินแปร และหินทราย โดยใช้รูปที่เด็กๆช่วยกันวาด วาดได้สวยมากค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารหลัก 5 หมู่ แม่อ้อฟังเพลินเลยลืมถ่ายรูป แต่มีผลงานที่เด็กนำเสนอมาให้ดูค่ะ
อาหารหมู่ที่ 1
อาหารหมู่ที่ 2
อาหารหมู่ที่ 3 และ 4
อาหารหมู่ที่ 5 ..ประโยคเด็ดอยู่ที่ "กินมากๆทำให้อ้วน และไขมันก็เข้าไปในเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดอุดตันเป็นโรคหัวใจขาดเลือด"
แล้วกลุ่มบุ๋นมาอธิบายเรื่องดินกับมนุษย์
ธีธัชนำเสนอในส่วนวงจรดิน-หมู-มนุษย์ ในรูปด้านล่างจะมีหมูสีเหลืองๆอยู่ด้านขวา ธีธัชเล่าว่าหญ้าโตบนดิน หญ้าก็จะมีธาตุดิน พอหมูกินหญ้าธาตุดินก็จะไปอยู่ในหมู เวลาหมูอึก็จะเป็นปุ๋ยให้ดิน พอเรากินหมู..ธาตุดินก็จะมาอยู่ในตัวเรา พอเราตายเราก็จะเน่าเปื่อยกลายเป็นดิน! โอ้โฮ...หนูได้เรียนรู้สัจธรรมของชีวิตด้วยเลยนะเนี่ย
ในการนำเสนอผลงานแบบนี้ จะเห็นได้ว่าการเขียนยังมีผิดอยู่บ้าง เพราะเป็นภาษาธรรมชาติที่เด็กจะหัดสะกดคำตามเสียงที่ได้ยิน ครูจะไม่เข้าไปติติงเพราะจะทำให้การคิดและเขียนของเด็กๆขาดช่วง ดังนั้นการแก้ไขการสะกดจริงๆจะไปทำในชั่วโมงภาษาไทย
สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ การอธิบายของเด็กๆเกิดจากการเข้าใจ ไม่มีใครถือกระดาษออกมาอ่านให้ฟัง หรือการท่องจำ
แล้วเด็กๆที่เคยขี้อายก็กล้าที่จะพูดต่อหน้าผู้คนมากขึ้น ไม่ใช่ใครอื่นไกล ธีธัชเนี่ยแหละ ตั้งแต่ช่วงอนุบาลแล้ว ประชุมทีไรครูออยก็บอกว่าธีธัชไม่ชอบพูดหน้าชั้นเรียน แต่พอถึงประถม..พี่ธีของเราอธิบายได้ดีเชียวค่ะ ต้องขอบคุณครูสุที่ช่วยแก้ไข โดยตั้งแต่ธีธัชเริ่มเรียนปฐมธรรมได้แค่ 2 อาทิตย์ ครูสุก็มาเล่าว่าธีธัชไม่ค่อยนำเสนองานหน้าชั้น ครูสุก็ช่วยเหลือแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยครั้งแรกครูสุเป็นคนนำเสนอก่อนแล้วให้ธีธัชเสริมส่วนที่ขาด ครั้งต่อมาครูสุกับธีธัชนำเสนอกันคนละครึ่ง ครั้งถัดมาอีกธีธัชเป็นคนนำเสนอแล้วครูสุค่อยเสริม วิธีนี้ทำให้ธีธัชมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทีละนิด สุดท้ายก็สามารถนำเสนอผลงานต่อหน้าพ่อแม่และเพื่อนๆได้อย่างน่าภูมิใจ...ขอบคุณครูสุดค่ะ
ต่อมาเป็นการแสดงดนตรีไทยของเด็กๆ โดยเด็กป.1 เล่นขิมกันทั้ง 7 คน ส่วนพี่ๆนั้นเล่นระนาดและฆ้องวง เด็กๆตั้งใจเล่นกันมาก ขิมที่ธีธัชใช้ยกไปจากที่บ้านค่ะ เป็นขิมที่อากิ๊กใช้เล่นตอนเป็นเด็กนักเรียน..ตอนนี้ยกให้หลานใช้แล้วค่ะ
จริงๆแล้วเด็กๆต้องได้เล่นละครกัน โดยคุณยายขอบุ้งกี๋ช่วยทำชุดจรเข้จากถุงดำให้เด็กๆ 7 ชุดแล้วด้วย แต่ในวันซ้อม เด็กๆไม่ตั้งใจซ้อม เอาแต่เล่น ครูเจนกับครูสุจึงลงโทษด้วยการ งดการแสดง !! โอ้โฮ..เด็กๆบางคนก็โกรธ บ้างก็เสียใจ แต่ก็ได้บทเรียนเรื่อง ความตั้งใจ แม่ขอตบมือให้กับการลงโทษของคุณครู เป็นความกล้าและความหวังดีที่จะให้เด็กๆเรียนรู้ บางทีบทเรียนมันก็มาในรูปแบบการลงโทษได้เหมือนกัน
ขออวดผลงานบางส่วนของธีธัชที่แม่อ้อชอบ ชิ้นนี้ในวิชาภาษาไทย คำที่ใช้สระ เ-แ วาดรูปเป็นเรือดำน้ำและปลา แล้วเขียนคำและภาพประกอบไว้ในนั้น เช่นคำว่า แรง ก็จะอยู่ในเรือดำน้ำสีเหลืองและมีรูปคนมีกล้ามเป็นมัดๆประกอบคำ คำว่า เวลา ก็จะมีนาฬิกาประกอบ
แล้วยังมีการทำงานจากกระดาษเปล่า สรุปส่ิงที่เรียนรู้จากทัศนศึกษาและวิทยาศาสตร์พ่อโก้
ทัศนศึกษา กรีนไลฟ์ฟิตเนส
มีผลงานธีธัชอีกนะคะ อยู่ที่ http://mamaaor.multiply.com/photos/album/77/77